สรรพคุณ
เป็นน้ำมันที่ได้มาจากการกลั่นปิโตรเลียม ถ้าอยู่ในรูปของน้ำมันเราเรียกว่า Mineral Oil แต่ถ้าอยู่ในรูปของแวกซ์ เราเรียกว่า ปิโตรเลียมเจล น้ำมันประเภทนี้ได้มาจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ โดยใช้ความร้อนแปรสภาพน้ำมันให้กลายเป็นไอ จนลอยขึ้นสู่ชั้นบนของหอกลั่น กลั่นตัวกลายเป็นน้ำมันต่างๆ และที่อุณหภูมิจุดเดือดที่ 150 – 275 องศาเซลเซียส ที่ไอกลั่นตัวเป็นน้ำมันเบนซิล และเกิดสารเหลือค้างเกาะอยู่ชั้นบนขอหอกลั่น เรียกกันว่า พาราฟินที่นำมาทำ ปิโตรเลียมเจล หรือ Petroleum Jelly นั้น มีหน้าตาเป็นน้ำมันใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ซึ่งที่มาก็คือเป็นสารสกัดที่เป็นผลพลอยได้มาจากการทำน้ำมันปิโตรเลียมในธุรกิจพลังงานนี่เอง จึงสามารถหาได้ปริมาณมากและมีราคาถูก (ว่ากันว่าถ้าโรงกลั่นน้ำมันจะกำจัด Mineral Oil โดยการย่อยสลาย ค่าใช้จ่ายในการย่อยสลายMineral Oil แพงกว่าราคาที่ขายได้เสียอีก) แถมยังไม่เน่า ไม่หืน ไม่หมดอายุ จึงมักถูกนำมาใช้ในสูตรเครื่องสำอางประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ ทั้งชนิดราคาถูกและแพง ทำหน้าที่ในการให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว แต่เบื้องหลังการทำงานของมันนี้ ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพตามมาได้ หากสะสมในปริมาณมาก
น้ำมันแก้ว หรือน้ำมันขาว (White Oil Mineral Oil Carnation Oil) ใช้ผสมในหลายอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ในการ ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ป้องกันผิวหนังแห้ง ตกสะเก็ด คัน และลดการระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งสาเหตุของผิวแห้งส่วนใหญ่เกิดจากการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนัง mineral oil จะทำหน้าที่เป็นชั้นฟีล์มน้ำมันเคลือบบริเวณผิวหนังชั้นบนป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนังและเก็บรักษาความชุ่มชื้นไว้กับผิวหนัง American Academy of Dermatology (AAD) ได้จัด mineral oil เป็นสารที่ ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ที่ mineral oil จะทำให้เกิดสิวต่อผิวหนังมนุษย์ได้
สำหรับ: สำหรับผลิตภัณฑ์หลากชนิด
วิธีการผสม: ผสมในพาร์ทของน้ำมัน
อัตราการใช้: 1-100% (สามารถใช้ทาผิวได้โดยตรง) , ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (1-5%) , ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว (1-10%)
ละลาย: น้ำมัน
pH: –
ลักษณะ : ของเหลวลักษณะน้ำมัน ใส
วิธีเก็บรักษา: สามารถเก็บในอุณหภูมิห้อง แต่ปิดฝาขวดให้สนิท แล้วมิดชิดจากแสงแดด หรือความร้อน ผลิตภัณฑ์ มีอายุยืนนาน โดยหากเก็บอย่างถูกต้อง มีอายุไม่ต่ำกว่า 5ปี